อดีตเรือนหอ 100 ล. ‘แอฟ’ เผยวันเดินออกมา

เปิดใจเป็นครั้งแรก “แอฟ”ทักษอร ออกมาเปิดใจกับรายการ แฉ ถึงเรื่องราวชีวิตรักที่แยกกันอยู่กับ สงกรานต์ เตชะณรงค์ โดยแอฟเล่าว่า เวลามีปัญหา มักจะเข้าไปเคลียร์เลย ตนจะไม่ค่อยวีน ไม่ค่อยปรี๊ด คนที่เคยเห็นก็จะเป็นผู้โชคดี ซึ่งก็คือคนนั้นแหละ“ตอนที่แอฟปรี๊ด วีน อารมณ์ร้อน คืออารมณ์ยังไปไม่สุด แต่ถ้าโกรธมาก ๆ แอฟจะเงียบ และจะบอกให้ผู้ชายรู้ไว้ว่า ถ้าผู้หญิงยังร้องไห้อยู่ ก็คือยังแคร์ ยังมีเยื่อใย แต่ถ้าหยุดพูดเมื่อไรคืออันตรๅย”พิธีกรถามว่า วันที่ตัดสินใจจบชีวิตครอบครัวนั้น เป็นอย่างไร แอฟกล่าวว่า แอฟก็เดินออกมา ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้เก็บของออกมาด้วย เราก็แค่กลับบ้านตัวเองแล้วไม่กลับไป ทำให้เรื่องนี้มันดราม่าน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นจะไม่มีช็อตร้องไห้ตอนเก็บของ

“ส่วนสิ่งที่ทำให้เรามองว่า เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ออกมา ก็เพราะเราคิดถึงลูก บางคนอาจจะอดทนต่อเพื่อลูก แต่เราไม่อยากให้ลูกมาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีกับเด็ก และเราเองพออยู่ในสถานการณ์หนึ่งก็ตัดสินใจไม่นาน เพราะไม่ใช่ว่าเราเองเพิ่งเจอ เพิ่งเริ่มคิด เรามั่นใจว่าเราอดทน และพยายามมาหลายปี ไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ทะเลาะกันและน้อยใจและจะจบความสัมพันธ์”แอฟกล่าวต่อไปว่า ก่อนที่จะมีข่าว แอฟก็ได้ออกมาจากบ้านนั้นประมาณ 1 ปี ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งแอฟก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิด และใช้ชีวิตปกติ อย่างช่วงแรกถ้าเขามารับลูก ตนก็ยังมีไปด้วย.

แต่ค่อย ๆ ลดระดับความสัมพันธ์ลง ส่วนความสัมพันธ์ของแอฟกับสงกรานต์นั้น คือ เราก็เหมือนเพื่อนในระดับหนึ่ง ที่ไม่ได้พูดคุยกันทุกวัน ส่วนปีใหม่เองยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เราก็ไม่ได้ปิดบังเขา เพราะเขายังอยู่ในวัยที่ยังเด็ก หากยังไม่ถามเราก็ยังไม่พูดอะไรช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของ แอฟ ทักษอร บอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่ตัดสินใจยากจริงๆ สำหรับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องตัดสินใจว่าจะก้าวต่อไปยังไงดีในอนาคต และเธอก็เป็นผู้หญิงที่สตรองมาก ก้าวข้ามผ่านเรื่องร้ายๆ มาได้ ตัดสินใจแยกทางกับอดีตสามี สงกรานต์ เตชะณรงค์ โดยไม่คิด

จะหันหลังกลับไปอีก ถ้าบอกเป็นจุดๆ มันยากเหมือนกัน แต่ช่วงที่กระทบจิตใจมากที่สุด ไม่ใช่ช่วงที่ตัดสินใจแต่เป็นช่วงก่อนตัดสินใจ คือก่อนตัดสินใจเราต้องมั่นใจแล้ว เราได้ทำดีที่สุดแล้ว แต่การทำดีที่สุดของเราคืออะไร เราคิดว่าตรงนี้มีปัญหาแล้วใช่มั้ย ก็ไม่เป็นไร ทนไปและพยายามแก้ปัญหาจนมันถึงที่สุดแล้ว ว่ามันไม่มีทางแก้ได้แล้วเราเลยตัดสินใจ เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่เราอดทนและพยายามทำอันนั้นคือช่วงเวลาที่ยาก ที่เสียใจ ที่เสียน้ำตา คือมันต้องมีอยู่แล้ว คือเราเป็นคนที่ต้องสุด ไม่งั้นตัดสินใจไม่ได้ เมื่อถามว่าในมุมสุดของ แอฟ คืออะไรเจ้าตัวบอกว่า เราต้องมั่นใจว่าเราพยายามที่สุดแล้ว เช่นถ้าเราจะปรับเปลี่ยนด้านไหน เราพยายามเข้าใจอีกฝั่งหนึ่งที่สุด เราพยายามมองข้ามไป แต่สุดท้ายมันกลับมาอีก และนั่นมันหมายถึงเรื่องของการให้อภัย

หลายคนอาจจะมองว่า ทำไมเรื่องแค่นี้ แอฟถึงให้อภัยไม่ได้ เจ้าตัวบอกว่า คุณเป็นคนนอกอาจจะมองมาจากอีกมุมหนึ่งซึ่งไกลมาก มาตัดสินชีวิตเราไม่ได้ ไม่เห็นว่าเราผ่านการให้อภัยมากี่ครั้ง และอยากจะบอกว่า กี่ร้อยกี่พันครั้งที่เราให้อภัย เพราะฉะนั้นอย่ามาบอกว่า เรื่องแค่นี้ให้อภัยไม่ได้ และแน่นอนว่าเธอต้องผ่านการให้อภัยมาเยอะมาก และไม่มีใครอยากจบหรอก คือเราไม่ได้พูดถึงว่า เราฝ่ายเดียว ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนดีและให้อภัยเค้า เค้าเองก็เคยให้อภัยเราเช่นกัน คือมันปรับจูนกันทั้งสองคน แต่ถ้ามันไปสุดทางแล้วก็จบ ที่ผ่านมาเราสองคนต่างคนต่างปรับกันมาสุดทางแล้ว และเราก็ได้ให้เวลาแล้ว

คนชอบพูดว่า เราเปลี่ยนไม่ได้หรอก แต่แอฟเชื่ออย่างหนึ่งว่า คนเราปรับตัวกันได้ และเราก็ให้เวลากันช่วงหนึ่งเต็มที่แล้ว เราก็ผ่านแบบขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งผู้หญิงคนหนึ่งก็เป็นธรรมดาที่เสียใจร้องไห้และเราก็รู้สึกว่าเราไม่อยากเสียเวลากับเรื่องพวกนี้แล้ว ไม่อยากให้ทำร้ายตัวเองในด้านความรู้สึก เคยไปออกรายหนึ่งแล้วพูดว่า ถ้าวันหนึ่งเราไม่ร้องไห้เสียใจแล้ว นั่นแปลว่าวันนั้นเราพร้อมแล้ว.

Facebook Comments Box

ใส่ความเห็น